โรงเรียน ภ.ป.ร. ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์

โรงเรียนมาตรฐานสากล (World – Class  Standard  School)

 

ประวัติการก่อตั้ง
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  (รัชกาลที่ ๕)  มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ  ให้กระทรวงธรรมการจัดตั้งโรงเรียนหลวงสำหรับอยู่ประจำขึ้นโปรดให้จัดการศึกษาแบบพับลิคสคูล  (Public School) ของอังกฤษ  ปรากฏตามราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓ หน้า  ๒๖๙ ลงวันที่ ๕ เมษายน  ๒๔๓๙โดยมีพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์เจ้ากิติยากรวรลักษณ์  อธิบดีกรมศึกษาธิการเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการมีการศึกษาทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เพื่อฝึกหัดกุลบุตรให้เป็นสุภาพบุรุษ พระราชทานนามว่าโรงเรียนราชวิทยาลัย โปรดให้เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า King’s  College

สมัยบ้านสมเด็จเจ้าพระยา  (๒๔๔๐  –  ๒๔๔๖)
สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ  ทรงสำเร็จราชการแผ่นดิน ขณะนั้นเสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิดโรงเรียนที่ตำบลบ้านสมเด็จเจ้าพระยา  จังหวัดธนบุรี  เมื่อวันที่ ๒๓  พฤษภาคม  ๒๔๔๐  ครูใหญ่คนแรกเป็นชาวอังกฤษชื่อ มิสเตอร์ เอซิล การ์เตอร์ สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัย
อ๊อกฟอร์ด ประเทศอังกฤษ สถานที่ตั้งโรงเรียน  เดิมเป็นจวนเก่าของสมเด็จพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์  ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินในตอนต้นรัชกาลที่ ๕
ต่อมาสถานที่เริ่มคับแคบทางกรรมการโรงเรียนจึงนำเรื่องกราบบังคมทูลทรงมีพระกรุณาพระราชทานที่ตั้งโรงเรียนแห่งใหม่ ณ อำเภอสระปทุม  จังหวัดพระนคร  มีเนื้อที่ ๑๑๕,๔๔๒ ไร่  แต่โรงเรียนต้องปิดทำการสอนชั่วคราวในปี  ๒๔๔๖  เพราะเกิดโรคระบาดแพร่ไปทั่วกรุงเทพฯ

สมัยสายสวลี   (๒๔๔๗ –๒๔๕๓)
ทรงพระกรุณาให้เปิดโรงเรียน  ณ โรงเลี้ยงเด็กของพระวิมาดาเธอกรมพระสุทธาสินีนาฏ ตำบลโรงเลี้ยงเด็ก ถนนบำรุงเมืองพระนคร  เป็นการชั่วคราว ส่วนโครงการก่อสร้างโรงเรียนแห่งใหม่ ที่สระปทุมก็ถูกยกเลิกเพราะเงินพระคลังข้างที่ขาด

สมัยบางขวาง   (๒๔๕๔ –๒๔๖๘)
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว  (รัชกาลที่ ๖)  กระทรวงยุติธรรมได้สร้างโรงเรียนกฎหมายแห่งใหม่ที่ตำบลบางขวาง นนทบุรี  แต่ยังขาดครูและนักเรียนพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจรูญศักดิ์กฤษดากร  เสนาบดีกระทรวงยุติธรรมจึงขอพระราชทานโรงเรียนราชวิทยาลัย  ซึ่งอยู่ในสังกัดกระทรวงธรรมการให้โอนมาอยู่ในการปกครองของกระทรวงยุติธรรม โดยมีข้อกำหนดว่านักเรียนต้องเรียนภาษาลาตินและวิชากฎหมาย
โรงเรียนราชวิทยาลัย สมัยบางขวาง เปิดเรียนวันที่ ๑ ตุลาคม  ๒๔๕๔
ครูใหญ่คนที่ ๒ เป็นชาวอังกฤษชื่อ  มิสเตอร์เอไตร  มาร์ติน สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด  ประเทศอังกฤษ  พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว  (รัชกาลที่ ๖)  ทรงเสริมสร้างให้โรงเรียนราชวิทยาลัยเจริญรุ่งเรืองอย่างยิ่ง เป็นโรงเรียนเดียวในสยามที่ได้รับเกียรติให้ผู้สำเร็จการศึกษาสามารถเข้าศึกษาต่อมหาวิทยาลัยในยุโรปได้โดยไม่ต้องสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษในปี พ.ศ. ๒๔๕๙  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้โอนโรงเรียนราชวิทยาลัยมาขึ้นกับสภากรรมการโรงเรียนมหาดเล็กหลวงและทรงรับไว้อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์

การสิ้นสุดโรงเรียนราชวิทยาลัย    
ในปี ๒๔๖๙ ด้วยสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำเพราะผลพวงจากสงครามโลก ครั้งที่ ๑ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว  จึงได้โปรดเกล้าฯ  ให้ยกโรงเรียนราชวิทยาลัยไปรวมกับโรงเรียนมหาดเล็กหลวง, โรงเรียนพรานหลวง  และพระราชทานนามใหม่ว่าโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัยในปี ๒๔๗๔  คณะครูและนักเรียนเก่าราชวิทยาลัย  จดทะเบียนสมาคมราชวิทยาลัยขึ้นเพื่อฟื้นฟูโรงเรียนราชวิทยาลัยให้กลับคืนใหม่อีกครั้ง  แต่ก็มีอุปสรรคเรื่องเงินมาตลอดในปี ๒๕๐๑  สมาคมราชวิทยาลัย ได้มีมติตั้งราชวิทยาลัย มูลนิธิเพื่อการศึกษาขึ้น  เพื่อดำเนินการจัดตั้งโรงเรียนให้สำเร็จ ม.ล.ปิ่น มาลากุล  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ซาบซึ้งในเจตนาจึงดำเนินการมอบโรงเรียนเตรียมอุดมสามพรานให้ทั้งที่ดินและอาคาร

สมัยสามพราน  (๒๕๐๗   ถึงปัจจุบัน)
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช  ทรงพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ พลตรีพระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ , พระยามานวราชเสวีฯ  นายนาค  เทพหัสดิน ณ อยุธยา เข้าเฝ้ารับพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยในการตั้งโรงเรียนขึ้นใหม่  ทรงพระราชทานอักษรพระปรมาภิไธยย่อนำหน้าชื่อโรงเรียนราชวิทยาลัยและทรงรับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระภัทรมหาราช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ  พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดโรงเรียน ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อวันที่ ๑ มิถุนายน  ๒๕๐๗  ณ ตำบลท่าตลาด   อำเภอสามพราน  จังหวัดนครปฐม  และในปี ๒๕๑๗  สมาคมราชวิทยาลัยได้โอนโรงเรียนไปอยู่ในสังกัดของกระทรวงศึกษาธิการเช่นดังแรกกำเนิด  ปัจจุบันโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๙ ตั้งอยู่เลขที่  ๙๐ หมู่  ๒  ถนนเพชรเกษม  ตำบลท่าตลาด  อำเภอสามพราน  จังหวัดนครปฐม  บนเนื้อที่ ๖๖ ไร่  ๑๗๖  ตารางวา   อยู่เชิงสะพานโพธิ์แก้ว  ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำนครชัยศรี(ท่าจีน) ห่างจากกรุงเทพฯ ไปทางทิศตะวันตก  ๓๔  กิโลเมตร ห่างจากสวนสามพราน ประมาณ ๑ กิโลเมตร เปิดทำการสอนตั้งแต่ระดับประถมศึกษาปีที่ ๕ ถึงระดับมัธยมศึกษาปีที่ ๖  นักเรียนทุกคนต้องอยู่ประจำในหอพักของโรงเรียน   ซึ่งเรียกว่าบ้าน  มีทั้งหมด ๔  บ้าน  แต่ละบ้านมีสีประจำบ้าน ได้แก่ บ้าน ๑  สีแสด  บ้าน ๒  สีเหลือง  บ้าน ๓  สีม่วง  และบ้าน  ๔  สีแดง  โดยถือเอาสีประจำ วันประสูติของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอและสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอทั้ง  ๔  พระองค์